จิ้งจกสามารถงอกหางใหม่ได้กี่ครั้ง? แล้วใช้เวลานานแค่ไหน?

รู้ไหมว่าเจ้าจิ้งจกตัวจิ๋วที่ชอบแอบอยู่ตามผนังบ้านเรา จริง ๆ แล้วมี “พลังวิเศษ” ที่ไม่ธรรมดา! ใช่แล้วค่ะ เรากำลังพูดถึงความสามารถในการ งอกหางใหม่ ได้เอง! โดยทั่วไปจิ้งจกงอกหางใหม่ได้ประมาณ 1 – 2 ครั้งตลอดชีวิต และมักจะงอกได้ดีแค่ครั้งแรก ส่วนครั้งที่สองจะยากขึ้นเยอะ แถมยังต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานถึง 1 – 3 เดือน กว่าหางใหม่จะกลับมาใกล้เคียงของเดิม วันนี้ Reviewjing รวมคำตอบแบบเข้าใจง่ายมาให้แล้วค่ะ 😆🦎

ทำไมจิ้งจกต้องสลัดหาง? มีกลยุทธ์อะไรรึเปล่า
หลายคนอาจเคยตกใจเวลาจิ้งจกหางหลุด แล้วมันยังดิ้นได้! จริง ๆ แล้วนี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่มันคือ “กลยุทธ์เอาตัวรอด” ชั้นเยี่ยมของจิ้งจกเลยล่ะค่ะ การสลัดหางเรียกว่า Autotomy เป็นสัญชาตญาณป้องกันตัวเพื่อเอาชีวิตรอดจากศัตรู เช่น งู แมว หรือแม้แต่มือมนุษย์ที่อยากจับเล่น 😂
เมื่อจิ้งจกรู้ตัวว่าตกอยู่ในอันตราย มันจะสลัดหางออกมา เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของศัตรู โดยที่หางจะยังดิ้นได้อยู่พักหนึ่ง เป็นเหมือนตัวล่อให้ศัตรูตามไปจับ ส่วนตัวมันก็รีบวิ่งหนีเอาชีวิตรอดไปอีกทางแบบสวย ๆ
นี่แหละค่ะคือความฉลาดแบบไม่ต้องใช้สมาร์ทโฟน! การเสียหางเป็นราคาที่มันยอมจ่าย เพื่อรักษาชีวิตไว้ก่อน แล้วค่อยว่ากันเรื่องงอกใหม่ทีหลัง ✌️

คำถามสำคัญ : จิ้งจกงอกหางใหม่ได้ “กี่ครั้ง”?
คำตอบคือ… ไม่ได้งอกได้ไม่จำกัดนะคะ! ถึงแม้จิ้งจกจะมีพลังพิเศษในการงอกหางใหม่ แต่ธรรมชาติก็มี “ลิมิต” อยู่ โดยทั่วไปแล้ว จิ้งจกสามารถงอกหางใหม่ได้ประมาณ 1 – 2 ครั้งตลอดชีวิต และมักจะงอกได้ดีแค่ครั้งแรก ส่วนครั้งที่สองจะฟื้นตัวได้ยากขึ้นมาก
สาเหตุเพราะกระบวนการสร้างหางใหม่ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก และต้องอาศัยเซลล์ที่ยังแข็งแรงสมบูรณ์ ถ้าสลัดหางบ่อยเกินไป ร่างกายของจิ้งจกอาจอ่อนแอ เสี่ยงติดเชื้อ และอาจไม่สามารถสร้างหางใหม่ได้อีกเลย
แม้จะดูเป็นซูเปอร์ฮีโร่แห่งโลกสัตว์ แต่จิ้งจกก็ไม่ได้มีพลังไม่จำกัดเหมือนในหนังนะคะ 🦎✨ ธรรมชาติให้มาแค่พอดี…เพื่อเอาตัวรอดเท่านั้นเองค่ะ
แล้วการงอกหางแต่ละครั้ง ใช้เวลานานแค่ไหน?
โดยปกติแล้ว จิ้งจกจะใช้เวลาประมาณ 1 – 3 เดือน ในการงอกหางใหม่ให้กลับมาใกล้เคียงกับของเดิม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุของจิ้งจก สุขภาพโดยรวม และสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย
ในช่วงแรกของการงอก หางจะดูนิ่ม ๆ และสั้นกว่าปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็จะค่อย ๆ ยืดและแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ แต่บางตัวอาจใช้เวลานานกว่า 3 เดือน โดยเฉพาะถ้าร่างกายอ่อนแอหรือขาดสารอาหาร
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่พบว่า “ช่วงอายุ” ก็มีผลต่อความเร็วในการฟื้นฟูด้วย จิ้งจกวัยเด็กจะงอกหางได้ไวกว่า เพราะระบบเซลล์ยังใหม่และสมบูรณ์นั่นเองค่ะ

หางใหม่ที่งอกขึ้นมา “ไม่เหมือนเดิม” 100% จริงหรือ?
ใช่เลยค่ะ! ถึงแม้จิ้งจกจะงอกหางใหม่ได้ แต่หางใหม่ที่งอกมานั้น ไม่ได้เหมือนเดิมแบบเป๊ะ ๆ ทั้งภายในและภายนอกเลย มาดูกันชัด ๆ ดีกว่าว่าแตกต่างยังไงบ้าง…
โครงสร้างภายในที่แตกต่าง
หางเดิมของจิ้งจกจะประกอบด้วย กระดูกแท้ ที่มีข้อต่อและระบบประสาทซับซ้อน แต่เมื่อหางงอกใหม่ขึ้นมา จะไม่มีโครงกระดูกแข็งแบบนั้นอีกแล้ว! หางใหม่จะใช้ “กระดูกอ่อน” เป็นโครงหลัก ซึ่งยืดหยุ่นน้อยกว่าและมีความแข็งแรงที่ลดลง
ยิ่งไปกว่านั้น ระบบประสาทในหางใหม่ก็ไม่ได้เชื่อมต่อแบบละเอียดเหมือนของเดิม ทำให้การรับรู้หรือการเคลื่อนไหวของหางใหม่อาจจะดูฝืดหรือไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ เป็นเหมือนการซ่อมบ้านแบบเร่งด่วน ไม่เหมือนสร้างใหม่ตั้งแต่รากฐานเลยค่า 🛠️
ลักษณะภายนอกที่ไม่เหมือนเดิม
หางใหม่ของจิ้งจกมักจะดู “เรียบ” และ “หนา” กว่าหางเดิม สีของมันอาจจะแตกต่างเล็กน้อย เช่น ดูเข้มหรืออ่อนกว่า หรือแม้แต่มีลายที่ไม่เหมือนเดิมเลยก็ได้
บางตัวหางใหม่อาจจะดูสั้นกว่าหางเดิม หรือมีความหยิกงอเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลมาจากการงอกที่ไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนการปะซ่อมอะไรบางอย่างที่แม้จะใช้ได้…แต่ก็ดูออกว่าเคยเสียมาก่อน 😅
ความลับทางวิทยาศาสตร์ : อะไรทำให้จิ้งจกงอกหางใหม่ได้?
แล้วอะไรล่ะ…ที่อยู่เบื้องหลังความสามารถสุดว้าวนี้ของจิ้งจก? อยู่ดี ๆ หางขาดแล้วงอกใหม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน! จริง ๆ แล้วร่างกายของจิ้งจกซ่อนความลับบางอย่างไว้ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เองก็ยังสนใจศึกษาอยู่จนถึงวันนี้ จะมีอะไรอยู่เบื้องหลังการงอกใหม่ของหางจิ้งจก? ไปดูกันเลยค่า!
พลังของ “สเต็มเซลล์” ที่ซ่อนอยู่
เบื้องหลังความสามารถสุดว้าวนี้คือ “สเต็มเซลล์ (Stem Cells)” ค่ะ ซึ่งเป็นเซลล์ที่สามารถพัฒนาเป็นเซลล์ชนิดอื่น ๆ ได้ เช่น กล้ามเนื้อ เส้นเลือด หรือกระดูกอ่อน
เมื่อหางของจิ้งจกขาด สเต็มเซลล์ในบริเวณนั้นจะถูกกระตุ้นให้ทำงานแบบเร่งด่วน คล้าย ๆ ระบบแจ้งเตือนในร่างกาย โดยมันจะเริ่มแบ่งตัวและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาเป็นหาง
ระบบนี้ไม่ใช่แค่เรื่องโชคดีของจิ้งจกเท่านั้น แต่นักวิทยาศาสตร์ยังศึกษามันเพื่อต่อยอดไปสู่การฟื้นฟูอวัยวะของมนุษย์ในอนาคตด้วย เช่น การปลูกแขนขาเทียมหรือการฟื้นฟูเซลล์สมองแบบธรรมชาติเลยทีเดียวค่ะ!
โดยสรุปเเล้วจิ้งจกอาจจะดูเป็นสัตว์ธรรมดา แต่พลังในการ “สลัดหาง” และ “งอกใหม่” ถือเป็นกลไกเอาตัวรอดที่ทั้งฉลาดและน่าทึ่งมาก ไม่ใช่แค่แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของธรรมชาติ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับวงการวิทยาศาสตร์อีกด้วย
และถ้าใครชอบเรื่องราวสนุก ๆ แบบนี้ ที่หยิบเอาเรื่องใกล้ตัวแต่คนมักมองข้าม มาขยายให้เข้าใจง่ายและน่าทึ่ง อย่าลืมติดตาม Reviewjing นะคะ เราจะพาคุณเปิดหูเปิดตาในมุมที่คุณอาจไม่เคยคิดมาก่อน พร้อมเสิร์ฟสาระแบบอ่านเพลิน ๆ และอย่าลืมแวะไปอ่านบทความอื่น ๆ ด้วยน้าา 👁️✨
อ้างอิงที่มาของข้อมูล