แจก! How to รักษาสิวแต่ละประเภท หายไว หน้าใสทันใจ!

การรักษาสิวให้หายไวและหน้าใสไม่ยาก แต่ต้องเลือกวิธีที่เหมาะสมกับประเภทของสิว! ดังนั้นการรักษาจึงต้องแตกต่างกันไปตามลักษณะและสาเหตุของสิวแต่ละประเภทค่ะ

วันนี้ Reviewjing จะพาเพื่อน ๆ ไปดูว่าสิวแต่ละประเภทมีวิธีการรักษาที่ถูกต้องต่างกันอย่างไร เพื่อให้ผิวกลับมาสวยใสอีกครั้ง อย่ารอช้า มาดูกันเลยค่ะ!💖

How to รักษาสิวแต่ละประเภท

การรักษาสิวแต่ละประเภทต้องใช้วิธีที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะและความรุนแรงของสิว Reviewjing จะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับวิธีรักษาสิวที่เหมาะสม เพื่อให้ผิวกลับมาสวยใสกันค่ะ!

1. สิวหัวดำ

สิวหัวดำเกิดจากการอุดตันของน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วในรูขุมขนค่ะ เมื่อสัมผัสกับอากาศจะเกิดการออกซิเดชันทำให้กลายเป็นสีดำ 🖤 โดยทั่วไปแล้วจะไม่เจ็บหรืออักเสบ และมักเกิดในบริเวณที่มีต่อมไขมันเยอะ เช่น จมูกและหน้าผาก  แต่ถ้าปล่อยไว้นาน ๆ อาจกลายเป็นสิวที่ลึกและทำให้เกิดปัญหาผิวเพิ่มขึ้นได้ในอนาคตค่ะ! เราลองมาดูวิธีการรักษาเพื่อให้ผิวใส เเละเรียบเนียนขึ้นกันค่ะ

วิธีการรักษาสิวหัวดำ 💊

1. ใช้ยาที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide ช่วยเปิดรูขุมขนและทำให้สิวอุดตันหลุดออกได้ง่าย โดยไม่ต้องบีบหรือแกะสิวเอง
2. ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอล (Retinol) เช่น Differin ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันในรูขุมขน
3. หลีกเลี่ยงการแกะหรือการกดสิว เพื่อป้องกันการอักเสบและการเกิดรอยแผลเป็น

ภาพโดย J Young Clinic

2. สิวหัวขาว

สิวหัวขาวเกิดจากการอุดตันของน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วในรูขุมขนที่ปิดสนิท ทำให้ไม่สามารถระบายออกมาได้ กลายเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาว  แม้ว่าจะไม่เจ็บหรืออักเสบ แต่ถ้าปล่อยไว้นาน ๆ สิวมักจะลึกขึ้นและรักษายากขึ้น! ดังนั้นการรักษาสิวหัวขาวตั้งแต่เริ่มต้นเป็นสิ่งสำคัญเเละไม่ควรมองข้าม เรามาดูวิธีการรักษาสิวหัวขาวกันดีกว่าค่ะ ว่าจะทำยังไงให้สิวหายไวและผิวกลับมาสวยใสอีกครั้ง! 💖

วิธีการรักษาสิวหัวขาว💊

1. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ช่วยเปิดรูขุมขนและขจัดสิ่งอุดตัน ทำให้สิวหัวขาวหลุดออกง่ายขึ้น
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรด AHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันในรูขุมขน
3. ใช้ยาที่มีส่วนผสมของ Tretinoin ยากลุ่มที่มีกรดวิตามินเอช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันได้เป็นอย่างดี
4. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันและน้ำหอม เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันและทำให้สิวหัวขาวเกิดขึ้นได้ง่าย
5. การทำความสะอาดผิวอย่างสม่ำเสมอ ใช้คลีนเซอร์ที่เหมาะสมเพื่อขจัดน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้เกิดการอุดตัน

3. สิวอักเสบ

สิวอักเสบ คือสิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มแดงที่ไม่มีหนอง เกิดจากการอุดตันในรูขุมขนและการอักเสบที่ตามมา 😣 มักจะรู้สึกเจ็บและทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน ถ้าปล่อยไว้นาน ๆ สิวอาจจะลึกขึ้นและทิ้งรอยแผลเป็นได้! แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะเรามีวิธีรักษาที่จะช่วยให้สิวหายเร็วและไม่ทิ้งรอยแผลเป็น ถ้าพร้อมเเล้ว ไปดูกันเลยค่ะ

วิธีการรักษาสิวอักเสบ💊

1. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Benzoyl Peroxide ช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียในรูขุมขน ลดการเกิดสิวใหม่
2. หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะสิว เพราะการบีบสิวจะทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้นและทิ้งรอยแผลเป็นได้
3. ใช้ยาปฏิชีวนะ (ในกรณีที่จำเป็น) หากสิวอักเสบมาก การใช้ยาปฏิชีวนะที่แพทย์แนะนำจะช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อได้

4. สิวฮอร์โมน

สิวฮอร์โมนเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ช่วงมีประจำเดือน หรือช่วงวัยรุ่นที่ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น จนเกิดการอุดตันในรูขุมขนและกลายเป็นสิว มักเกิดบริเวณคาง, ขมับ และหน้าผาก  มันอาจทำให้ผิวของเราดูไม่เรียบเนียนได้! แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เรามีวิธีรักษาให้ผิวกลับมาสวยใสอีกครั้ง🌿

วิธีการรักษาสิวฮอร์โมน💊

1. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Benzoyl Peroxide ช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียในรูขุมขน ทำให้สิวหายเร็วขึ้น 
2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวมัน เลือกมอยส์เจอไรเซอร์หรือคลีนเซอร์ที่ช่วยควบคุมความมันส่วนเกินและไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน 
3. ใช้เรตินอล (Retinol) ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันในรูขุมขน และทำให้รอยดำจากสิวดูจางลงได้ 
4. ทานยาฮอร์โมนตามคำแนะนำจากแพทย์ ในบางกรณีที่สิวฮอร์โมนรุนแรง แพทย์อาจแนะนำยาฮอร์โมนที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและลดสิวได้ 
5. รักษาความสะอาดของผิวอย่างสม่ำเสมอ การล้างหน้าและทำความสะอาดผิวช่วยลดการสะสมของน้ำมันและสิ่งสกปรกที่ทำให้เกิดสิว

ภาพโดย J Young Clinic

5. สิวหัวช้าง หรือ สิวซีสต์

สิวหัวช้าง (หรือสิวซีสต์) เป็นสิวที่มีลักษณะใหญ่และลึกมาก มีขนาดใหญ่กว่าสิวประเภทอื่น ๆ และมักจะรู้สึกเจ็บปวด มันเกิดจากการอุดตันของน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่สะสมในรูขุมขนจนเกิดการอักเสบภายในผิวหนัง  สิวประเภทนี้มักจะมีหนองและทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้หากไม่รักษาอย่างถูกวิธี! ไม่ต้องกังวลค่ะ เรามีวิธีรักษาที่ช่วยให้สิวหัวช้างหายเร็วขึ้นและป้องกันไม่ให้มันกลับมาอีก

วิธีการรักษาสิวหัวช้าง💊

1. ไปพบแพทย์เพื่อการรักษาที่เหมาะสม การใช้ยารักษาสิวหัวช้างควรได้รับการแนะนำจากแพทย์ เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ตรงจุด เช่น การฉีดยาในสิวเพื่อลดการอักเสบ
2. ใช้ยาปฏิชีวนะ ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการติดเชื้อที่เกิดจากสิวหัวช้าง
3. ใช้ยาที่มีส่วนผสมของ Retinoids เช่น Tretinoin หรือ Differin ช่วยลดการอุดตันในรูขุมขนและช่วยในการผลัดเซลล์ผิว
4. การใช้ Benzoyl Peroxide ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ลดการอักเสบและหายเร็วขึ้น
5. ไม่ควรกดหรือบีบสิว เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อและไม่ให้เกิดรอยแผลเป็น

การรักษาสิวแต่ละประเภทต้องใช้วิธีที่เหมาะสมเพื่อให้สิวหายเร็วขึ้นเเละผิวกลับเรียบเนียนอีกครั้ง การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการอักเสบและการอุดตัน พร้อมรักษาความสะอาดผิวอย่างสม่ำเสมอก็สำคัญค่ะ Reviewjing หวังว่าคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาสวยใสในเร็ว ๆ นี้นะคะ 💖✨

อ้างอิงที่มาของข้อมูล