สอนใช้ AI สร้างภาพ ตั้งแต่เริ่มต้น มือใหม่ก็ทำได้ใน 5 นาที
เห็นภาพสวยๆ ที่ AI สร้างแล้วอยากทำแบบนี้ได้บ้างใช่ไหมคะ? หลายคนต้องคิดว่ามันยาก ต้องเก่งคอมฯ หรือใช้โปรแกรมซับซ้อนแน่ ๆ แต่จะบอกว่าไม่จริงอย่างที่คิดเลยค่ะ! การใช้ AI สร้างภาพ เดี๋ยวนี้ง่ายสุด ๆ แค่มีไอเดียในหัวก็เสกภาพสวยได้ใน 5 นาที วันนี้ Reviewjing จะมาจับมือสอนแบบ Step-by-Step พร้อมแนะนำโปรแกรมในการสร้างรูปจาก AI รับรองว่าอ่านจบได้ภาพสวย ๆ แน่นอน!
AI คิดและสร้างรูป ได้อย่างไร?
AI เหมือนศิลปินอัจฉริยะที่มีคลังภาพยักษ์อยู่ในหัว มันได้เรียนรู้และจดจำรูปภาพหลายพันล้านใบจากทั่วอินเทอร์เน็ต พอพูดถึง ‘แมว’ มันก็จะนึกถึงสัตว์สี่ขา, มีหู และมีหนวด หรือถ้าเป็นคำว่า ‘ไซเบอร์พังค์’ ก็จะเห็นภาพเมืองที่เต็มไปด้วยแสงไฟนีออนกับเทคโนโลยีแบบล้ำ ๆ
เวลาเราพิมพ์คำสั่ง หรือที่เรียกกันว่า Prompt เข้าไป AI มันจะไม่ลอกจากรูปเดิมมานะคะ แต่มันจะตีความคำสั่งของเรา แล้วเอาคอนเซ็ปต์มารวมกัน สร้างเป็นภาพใหม่ขึ้นมาทั้งหมดเลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราอยากได้รูป ‘แมวในชุดอวกาศ’ ที่มี ‘ลายเส้นแบบแวนโก๊ะ’ AI ก็จะเริ่มจากภาพที่ดูเป็นจุด ๆ คล้ายภาพซ่าในทีวี แล้วค่อย ๆ ปรับให้ชัดขึ้น เติมรายละเอียดทีละนิด จนออกมาเป็นภาพใหม่ที่ไม่เหมือนใครในโลกตามที่เราจินตนาการไว้เป๊ะเลย!
วิธีการใช้ AI สร้างภาพ
การสร้างรูปจาก AI ไม่ซับซ้อนเลยค่ะ จริง ๆ แล้วขั้นตอนในการสร้างภาพมีแค่ไม่กี่สเต็ปเท่านั้นเอง ลองไปดูกันเลยค่าา!
สำรวจไอเดียของตัวเองก่อน
ก่อนจะไปที่หน้าโปรแกรม ลองใช้เวลาคิดในหัวสักแป๊บก่อนนะคะ ว่าภาพที่เราอยากได้หน้าตาเป็นยังไง? ตัวเอกของเราคืออะไร, กำลังทำท่าอะไร, อยู่ที่ไหน, บรรยากาศของภาพเป็นแบบไหน และอยากให้เป็นไหน อย่างแนวการ์ตูนญี่ปุ่นน่ารัก ๆ, ภาพถ่ายเหมือนจริง หรือแนวแฟนตาซีหลุดโลกไปเลย การมีภาพในหัวที่ชัดจะช่วยให้สเต็ปต่อไปง่ายขึ้นค่ะ
เปลี่ยนจินตนาการให้เป็น Prompt
นี่คือสเต็ปที่สำคัญที่สุดค่ะ คือการแปลงภาพในหัวให้เป็น ‘คำสั่ง’ หรือ Prompt เพื่อบอกให้ AI รู้ว่าเราต้องการอะไร แนะนำให้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักนะคะ แม้ว่า AI บางตัวจะเริ่มเข้าใจภาษาไทยได้บ้างแล้ว แต่ภาษาอังกฤษยังคงเป็นภาษาสากลที่ AI ทุกตัวเทรนมาโดยตรง ทำให้ตีความได้แม่นยำและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั่นเองค่ะ
เทคนิค คือใช้คำศัพท์ง่าย ๆ อธิบายให้ละเอียดที่สุดเหมือนเรากำลังเล่าเรื่องให้เพื่อนฟัง เช่น “A fluffy cat, wearing a cool sunglasses, sitting on a beach, cinematic style” (แมวขนฟูใส่แว่นกันแดดเท่ ๆ นั่งอยู่บนชายหาด สไตล์ภาพยนตร์)
ปรับแก้ และต่อยอด
รูปแรกที่ได้ออกมาอาจจะยังไม่ตรงใจ 100% เป๊ะ ๆ นะคะ ให้เราลองปรับแก้ Prompt ของเราไปเรื่อย ๆ ดูค่ะ ลองเพิ่มคำบรรยายหรือคำขยายเข้าไป, ตัดคำที่ไม่จำเป็นออก หรือจะลองสลับตำแหน่งประโยคก็ได้ บางทีเราอาจจะได้ไอเดียใหม่ๆ ที่สวยกว่าที่คิดไว้ตอนแรกจากรูปที่ AI สร้างให้ก็ได้ค่ะ
เลือกภาพที่ชอบ และบันทึกผลงานได้เลย!
พอเราปรับแก้ Prompt จนได้รูปที่ถูกใจแล้ว ก็ถึงเวลาเลือกและเซฟผลงานชิ้นเอกจากฝีมือ AI เก็บไว้แล้วค่ะ เราก็แค่จิ้มรูปที่ชอบที่สุด แล้วกดดาวน์โหลดเก็บไว้ใช้งานต่อ หรือจะแชร์ไปอวดเพื่อน ๆ ในโซเชียลมีเดียได้เลย!
เคล็ดลับสำหรับมือใหม่
อยากให้ภาพสวยปังกว่าเดิม? ลองเอาเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ไปใส่ใน Prompt ของเราดู!
แนะนำโปรแกรม AI วาดรูปยอดฮิต
ปัจจุบันมีโปรแกรม AI ที่ช่วยสร้างภาพให้เลือกใช้เยอะมาก เราได้คัดมาให้ 4 โปรแกรมหลัก ๆ มาฝากทุกคน ตามนี้เลยค่าา!
DALL·E 3
ของดีจากค่าย OpenAI (ผู้สร้างเดียวกับ ChatGPT) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความฉลาดในการเข้าใจภาษาคนมาก ๆ ค่ะ เราสามารถพิมพ์คำสั่งเป็นประโยคที่ยาว เหมือนกำลังแชทกับเพื่อนได้เลย AI ก็จะตีความและสร้างภาพออกมาได้ตรงใจสุด ๆ แถมยังเก่งเรื่องการใส่ตัวหนังสือลงในภาพด้วย
วิธีใช้งานง่ายและฟรี! คือการใช้งานผ่าน Microsoft Copilot (หรือชื่อเดิม Bing Image Creator) โดยจะได้รับเครดิตสร้างภาพฟรีทุกวัน ส่วนใครที่ใช้ ChatGPT Plus อยู่แล้ว ก็ใช้งานในหน้าแชทได้เลยค่ะ
Midjourney
นี่คือตัวตึงสำหรับการสร้างภาพเลยค่ะ! Midjourney โดดเด่นเรื่องการสร้างภาพที่มีสไตล์สวยงามอลังการ รายละเอียดคมชัดสมจริงและมีความเป็นศิลปะสูงมาก จึงเป็นที่นิยมในหมู่นักวาดและศิลปินที่ต้องการผลงานคุณภาพสูงและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
การใช้งานจะแตกต่างจากตัวอื่น โดยต้องใช้ผ่านแอปแชท Discord ด้วยการพิมพ์คำสั่ง “/imagine” ในห้องแชทของ Midjourney ค่ะ ปัจจุบันยังไม่มีเวอร์ชันฟรี และจำเป็นต้องสมัครบริการรายเดือนเท่านั้นนะคะ
Ideogram
ถ้าอยากสร้างภาพที่มีตัวหนังสือสวย ๆ ต้องตัวนี้เลยค่ะ Ideogram ถูกพัฒนามาให้เก่งเรื่องการวางตัวอักษรโดยเฉพาะ สามารถสร้างโลโก้, ชื่อแบรนด์ หรือคำคมต่าง ๆ ลงในภาพได้อย่างสวยงามและถูกต้องกว่า AI ตัวอื่น เหมาะมากสำหรับงานกราฟิกและคอนเทนต์
วิธีใช้งานก็ง่ายมาก ๆ เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ ideogram.ai แล้วพิมพ์คำสั่งได้เลย มีเวอร์ชันฟรีให้ใช้ โดยจะได้รับเครดิตสำหรับสร้างภาพจำนวนหนึ่งทุกวันค่ะ
Stable Diffusion
ตัวนี้เปรียบเสมือนตัวท็อปสำหรับมือโปรเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นโปรแกรมแบบ Open-source ที่ให้อิสระในการควบคุม สามารถเทรนโมเดลด้วยภาพของเราเองได้ (เช่น ใบหน้า) เพื่อสร้างตัวละครซ้ำ ๆ หรือปรับแต่งค่าต่าง ๆ ได้อย่างละเอียด
การใช้งานมีหลายระดับ ตั้งแต่วิธีง่าย คือใช้ผ่านเว็บสำเร็จรูป ไปจนถึงขั้นแอดวานซ์คือการติดตั้งโปรแกรมลงบนคอมพิวเตอร์ของตัวเอง ซึ่งเป็นโปรแกรมฟรี แต่อาจจะต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่สเปคแรง ๆ หน่อยนะคะ
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับโปรแกรม AI
เมื่อสนุกกับการสร้างภาพไปแล้ว ก็มีเรื่องสำคัญอีกนิดหน่อยที่ควรรู้ไว้เหมือนกันค่ะ เพื่อให้เราใช้งาน AI ได้อย่างสบายใจ
ข้อจำกัดที่ AI สร้างไม่ได้
AI ส่วนใหญ่จะมีตัวเซ็นเซอร์อยู่ในตัวนะคะ คือมันจะถูกตั้งโปรแกรมมาให้ ไม่สร้างภาพที่ไม่เหมาะสม ค่ะ อย่างเช่น ภาพที่ดูรุนแรง, ภาพโป๊เปลือย หรือภาพที่เลียนแบบคนดังบางคน เพื่อป้องกันไม่ให้นำไปใช้ในทางที่ผิด ถ้าเราเผลอใส่คำสั่งแนวๆ นี้เข้าไป AI ก็จะขึ้นข้อความเตือนและไม่สร้างภาพให้เรานั่นเองค่ะ
การนำภาพไปใช้เชิงพาณิชย์
ข้อนี้สำคัญมาก ๆ สำหรับคนทำธุรกิจเลย ต้องทำความเข้าใจว่าโปรแกรม AI วาดรูปแต่ละเจ้าเค้ามีกฎไม่เหมือนกันค่ะ ส่วนใหญ่แล้วเวอร์ชันฟรีจะยังไม่ให้เราเอาภาพไปใช้เชิงพาณิชย์ได้ แต่ถ้าเป็นแบบเสียเงินมักจะอนุญาตให้ใช้ได้เลย ดังนั้น ก่อนจะเอาภาพไปใช้กับสินค้า, โพสต์ขายของ หรือทำโฆษณา แนะนำว่าให้อ่านเงื่อนไขการใช้งานของโปรแกรมนั้น ๆ ให้ชัวร์ก่อนเสมอนะคะ จะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง
ลิขสิทธิ์จากการสร้างภาพ
เรื่องนี้กฎหมายยังค่อนข้างใหม่เลยค่ะ แต่ทางสากลแล้วตอนนี้คือ รูปที่ AI สร้างขึ้นมาล้วน ๆ จะยังไม่มีใครเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ และถือว่าเป็นสมบัติสาธารณะ (Public Domain) ไปเลยค่ะ พูดง่าย ๆ ก็คือ เราเอาไปใช้ได้ คนอื่นก็เอาไปใช้ได้เหมือนกัน เราเลยจะอ้างสิทธิ์ว่าเป็นเจ้าของภาพนั้นคนเดียวไม่ได้
สรุป
เห็นไหมคะว่าการใช้ AI สร้างภาพ เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวหรือเรื่องของคนเก่งคอมฯ อีกต่อไปแล้ว มันเหมือนเรามีไม้กายสิทธิ์ที่ช่วยเสกทุกจินตนาการในหัวให้ออกมาเป็นภาพสวย ๆ ได้ในไม่กี่คลิก ซึ่งนี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนโลกของเรา ซึ่งรวมไปถึงวิธีการค้นหาข้อมูลบน Google ด้วย ถ้าใครอยากรู้ว่า AI กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนโลกการค้นหาข้อมูลบน Google ไปอย่างไร สามารถเข้าไปอ่านต่อในบทความ SGE คืออะไร? ได้เลยค่าา!
และถ้าใครไม่อยากพลาดเทรนด์ AI หรืออยากรู้จักเครื่องมือใหม่ ๆ ก่อนใคร ก็อย่าลืมติดตาม Reviewjing ไว้นะคะ เราจะคอยเอาเรื่องราวใหม่ ๆ แบบนี้มาอัปเดตให้อ่านกันอีกแน่นอนค่าา!